Close

สินเชื่อบ้าน

ก่อนที่คุณจำทำการกู้ยืมเงินซื้อหรือจำนองบ้าน คุณจำเป็นต้องมาทำความรู้จักกับ สินเชื่อบ้าน กันก่อน เพราะการกู้เงินมากมายสำหรับการซื้อบ้าน จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองที่ดี พร้อมเรียนรู้เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ตามมาพร้อมกับการกู้สินเชื่อบ้านนี้นั่นเอง สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้นั้นก็มีตามรายละเอียดด้านล่างนี้

  • ความหมายของ “สินเชื่อบ้าน”
  • เรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่อง “ดอกเบี้ย”
  • วิธีการเลือกกู้สินเชื่อกับธนาคารที่ดีที่สุด
  • การเตรียมเอกสารการกู้เงิน

เพราะฉะนั้นแล้ว ในบทความนี้เราจะมาอธิบายให้คุณเข้าใจขั้นตอนทั้ง 4 นี้กันอย่างง่าย พร้อมเริ่มกู้สินเชื่อบ้านที่คุณต้องการได้เลย

เงินเพื่อที่อยู่อาศัย

ธนาคารกรุงศรี (Krungsri)
เริ่มต้น 10000 ถึง 4,500,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 5%
อายุจาก20ปี
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี (CIMB)
เริ่มต้น 5000 ถึง 500,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 10%
อายุจาก16ปี
ธนาคารซิตี้แบงค์ (Citibank)
เริ่มต้น 15000 ถึง 1,000,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 6%
อายุจาก16ปี
ธนาคารทหารไทย (TMB)
เริ่มต้น 8000 ถึง 600,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 1%
อายุจาก14ปี
ธนาคารกรุงไทย (KrungThai)
เริ่มต้น 40000 ถึง 550,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 5%
อายุจาก16ปี
ไอซีบีซี (ICBC)
เริ่มต้น 20000 ถึง 8,000,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 10%
อายุจาก25ปี
P2P
เริ่มต้น 5000 ถึง 800,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 10%
อายุจาก18ปี
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
เริ่มต้น 20000 ถึง 20,000,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 4%
อายุจาก18ปี
ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)
เริ่มต้น 50,000 ถึง 5,500,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 8%
อายุจาก16ปี

สินเชื่อบ้าน คืออะไร

การกู้ สินเชื่อซื้อบ้าน คือ การกู้เงินจากธนาคารระยะยาวเพื่อมาซื้อบ้าน, คอนโด, ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ที่คุณต้องการ จากนั้นก็ค่อยทยอยคืนธนาคารแบบผ่อนจ่ายทีหลังเป็นเวลาระยะยาว ตั้งแต่ 3 ปีเป็นต้นไป

ซึ่งเมื่อคุณได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงินหรือทางธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจำเป็นต้องทำสัญญาสินเชื่อระหว่างคุณและธนาคาร เพื่อทำการระบุจำนวนเงินผ่อนชำระรายเดือนและคำนวณระยะเวลาในการผ่อนชำระต่อไปนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง สินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อบ้านแลกเงิน นั่นก็คือ สินเชื่อบ้านแลกเงินจะเป็นการนำเงินที่กู้จำนวนมหาศาลไปหมุนเวียนในการทำธุรกิจ โดยจำใช้ที่อยู่อาศัยเช่น บ้าน, คอนโด และอพาร์ทเม้นท์ เป็นหลักประกันในการผ่อนชำระนั่นเอง

อัตราดอกเบี้ย กู้เงินซื้อบ้าน

หากคุณคิดจะกู้ สินเชื่อ บ้าน ปี 2565 (2022) นี้ เรามาทำความรู้จักกับอัตราดอกเบี้ยจากการกู้เงินธนาคารกันก่อน โดยอัตราดอกเบี้ยในการกู้เงินซื้อบ้านนี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันทั้ง 2 รูปแบบด้วยกันเช่น ดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate), ดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) และ ดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) เป็นต้น 

  • ดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate) คืออัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บลูกค้าที่มีประวัติการเงินที่ดี เป็นอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เรียกได้ว่าเป็นสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะ
  • ดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ทางธนาคารเรียกเก็บลูกค้าที่มีรายการเบิกเงินเกินบัญชี
  • ดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่มีการเรียกเก็บลูกค้ารายย่อย ที่มีประวัติทางธนาคารที่ดี รูปแบบที่มีโอกาสผ่านง่ายกว่า แต่ก็จะมีความเสี่ยงที่สูงกว่าจากการผันผวนของเศรษฐกิจในประเทศไทย

วิธีเลือกธนาคารเพื่อทำการกู้ธนาคาร

แน่ล่ะ มีหลากหลายธนาคารในประเทศไทยที่พร้อมเสนอเรื่องเงินเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ สินเชื่อ จำนอง ให้กับคุณ เพราะฉะนั้นแล้ว เราจึงต้องเตรียมตัวพิจารณาข้อเสนอจากธนาคารเพื่อการกู้เงินที่คุ้มที่สุด ซึ่งเราก็ได้รวบรวมหลักการพิจารณามาให้คุณด้านล่างนี้แล้ว 

  1. เริ่มแรก คุณจำเป็นต้องรู้ว่าคุณต้องการเลือกกู้สินเชื่อประเภทไหนกัน เพราะสินเชื่อแต่ละรูปแบบนั้น ก็มีความแตกต่างกันอย่างเช่น สินเชื่อซื้อบ้าน และ สินเชื่อบ้านแลกเงิน เป็นต้น
  2. อย่างที่สองคือ การตรวจสอบวงเงินที่ธนาคารได้นำเสนอให้กับคุณ รวมทั้งระยะเวลาในการผ่อนชำระ เพื่อเตรียมตัวเรื่องการเงินในการผ่อนชำระและการจัดการเรื่องการเงินอย่างอื่น
  3. ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร เพราะการผ่อนผันสินเชื่อซื้อบ้านนี้ อาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาว ซึ่งหากคุณเลือกธนาคารที่มีการคิดค่าดอกเบี้ยในราคาที่ต่ำ ก็จะเป็นผลดีในการผ่อนผันระยะยาวของคุณนั่นเอง
  4. ความยากง่ายในการอนุมัติของแต่ละธนาคารนั้นไม่เท่ากัน ซึ่งหากคุณต้องการเงินด่วน ก็อาจจะต้องการธนาคารที่ให้การอนุมัติที่รวดเร็วกว่า
  5. หากคุณเลือกกู้เงินด่วนจากธนาคารที่คุณมีบัญชีอยู่แล้ว ก็มีสิทธิลุ้นรับสิทธิพิเศษอย่างอื่นนั่นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเสนอและผลประโยชน์จากธนาคารของคุณก่อนนั่นเอง

การเตรียมเอกสารในการกู้สินเชื่อบ้าน

หากคุณต้องการกู้เงินซื้อบ้าน ตัวเลือกสินเชื่อบ้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่เพิ่มความสะดวกสบายและเพื่อให้คุณได้อาศัยอยู่ที่บ้านในฝันของคุณได้อย่างดี จากเนื้อหาด้านบนที่คุณได้พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เป็นขั้นตอนในการเตรียมเอกสารกู้สินเชื่อบ้านที่คุณต้องการ อย่าลืมว่าขั้นตอนการเตรียมเอกสารเพื่อทำการกู้นี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ลืมเอกสารในข้อไหนนั้น เราตามมาดูกันแต่ละข้อนี้เลย

เอกสารส่วนบุคคล (เอกสารผู้ขอสินเชื่อ)

  • บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงและสำเนา)
  • ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา)
  • ใบจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ กรณีที่คุณทำการเปลี่ยนชื่อมา (ตัวจริงและสำเนา)
  • ใบจดทะเบียนสมรส กรณีที่คุณมีการจดทะเบียนสมรส (ตัวจริงและสำเนา)
  • ใบจดทะเบียนหย่า กรณีที่คุณจดทะเบียนหย่า (ตัวจริงและสำเนา)
  • ใบจดทะเบียนมรณะภาพ กรณีที่คู่สมรสของคุณเสียชีวิต (ตัวจริงและสำเนา)
  • ใบจดทะเบียนแยกกันอยู่ กรณีที่คุณแยกอยู่กับคู่สมรสของคุณ (ตัวจริงและสำเนา)

เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน

พนักงานประจำ:

  • หนังสือรับรองเงินเดือน (ฉบับจริงเท่านั้น)
  • สลิปเงินเดือน 3 เดือนย้อหลัง (ฉบับจริงและสำเนา)
  • ใบแสดงรายการเดินบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน (ฉบับจริงและสำเนา)

**หากคุณรับเงินเดือนเป็นเงินสด จำเป็นต้องเตรียมเอกสาร ใบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปีและหนังสือรับรองการหักภาษี (50 ทวิ) (ฉบับจริงและสำเนา)**

เจ้าของธุรกิจส่วนตัว:

  • เตรียมทะเบียนสำเนาทะเบียนการค้า หรือ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (หากมีการจดทะเบียน)
  • ใบแสดงรายการเดินบัญชี ย้อนหลัง 12 เดือน (ฉบับจริงและสำเนา) ทั้งบัญชีส่วนตัวและบัญชีกิจการ
  • ใบแสดงรายการเดินบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและบัญชีเบิกเงินเกิน ย้อนหลัง 6 เดือน (ฉบับจริงและสำเนา)
  • หลักฐานอื่นๆ เกี่ยวกับกิจการ

ผู้ประกอบอาชีพอิสระ:

  • ใบแสดงรายการเดินบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน
  • ใบอนุญาตประกอบอาชีพ

เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน

  • เอกสารหลักประกัน (รายละเอียดหลักทรัพย์)
  • เตรียมสำเนาเอกสารที่ดี หรือ โฉนดที่ดิ (น.ส. 4 จ.) กรณีที่อสังหาริมทรัพย์ของคุณเป็นที่ดี
  • หรือเตรียมหนังสือแสดงสิทธิ์ (น.ส. 3 ก.) (สำเนาทุกหน้า 2 ชุด)
  • แผนที่อสังหาริมทรัพย์
  • รูปถ่ายอสังหาริมทรัพย์
  • เตรียมสำเนาสัญญาซื้อขายและสัญญามัดจำ

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำการกู้สินเชื่อบ้านที่คุณต้องการได้แล้ว อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ การหาข้อมูลและเรียนรู้รายละเอียดอย่างลึกเกี่ยวกับการทำสินเชื่อบ้านให้มากที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้ ก่อนที่จะเริ่มดำเนินงานนั่นเอง